อาหารสำหรับแม่ให้นมบุตร

เคยว่ากันไปแล้วเกี่ยวกับ อาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ อาหารสำหรับคนท้อง วันนี้จะมาเสนอเรื่องหลังจากเจ้าตัวเล็ก ลืมตาขึ้นมาดูโลกอันสวยงามนี้แล้ว นั่นคือ อาหารสำหรับแม่ให้นมบุตร นั่นเอง เพราะยังไง เดือนนี้ก็ยังเป็นเดือนของคุณแม่อยู่ จึงไม่อยากให้พลาดโอกาสทองในการมีเนื้อหาเกี่ยวกับ แม่ๆ แบบนี้ค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลา

อาหารสำหรับเพิ่มน้ำนมให้ลูกนั้น นับเป็นอาหารที่มีสมุนไพรต่างๆ มากมาย โดยคนโบราณอย่างบรรพบุรุษเรานั่นเอง มีความเฉลียวฉลาดเป็นอย่างมากที่แนะนำให้แม่ๆ อย่างเราๆ นั้นได้ดูแลลูกน้อยอย่างถูกวิธีและดีเยี่ยมไม่น้อย โดยเฉพาะสูตรอาหารให้นมบุตร สำหรับคุณแม่นั้น ไม่มีประเทศไหนเหมือนกับประเทศไทยเลยทีเดียว แถมสรรพคุณก็เรียกได้ว่า โดดเด่นและดีต่อสุขภาพ แถมให้คุณภาพคับแก้วกันเลยทีเดียว ที่สำคัญ อร่อยด้วย มาว่ากันเลยกับเรื่อง อาหารเพิ่มน้ำนม

อาหารสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร

ก่อนอื่นมาดูกระบวนการสร้างน้ำนมกันก่อน ในเมื่อนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูก และนมแม่ก็กลั่นมาจากเลือดในร่างกายแม่ ดังนั้น อาหารที่แม่รับประทานเข้าไปย่อมแปรเปลี่ยนเป็นน้ำนม เราจึงต้องให้ความสำคัญกับอาหารสำหรับคุณแม่กันอย่างเต็มที่ เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์ เต้านมจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง คือ ที่ลานหัวนมจะใหญ่และสีเข้มขึ้น หัวนมอาจจะตั้งขึ้น เต้านมแข็งและตึง จากนั้นจะค่อยๆขยายขนาดออก ซึ่งเต้านมใหญ่หรือเล้กนั้นขึ้นอยู่กับไขมันในเต้านม ฉะนั้นจึงไม่เกี่ยวกับการมีน้ำนมว่าจะมีปริมาณมากหรือน้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนต่อมน้ำนมภายในเต้านมมากกว่า

เมื่อตั้งครรภ์ในช่วง 2 – 3 เดือนสุดท้ายก่อนครบกำหนดการคลอดฮอร์โมนโปรแลคตินจะมีระดับสูงขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นตัวการสำคัญในการผลิตน้ำนม แต่ไม่เกี่ยวกับการไหลของน้ำนม ซึ่งน้ำนมจะไหลออกมาได้ดีต้องมีขึ้นร่วมกับการดูดของลูกน้อย ซึ่งเราจะเรียกว่า Reflex 5 อย่าง โดย Reflex 3 อย่างแรกจากลูกคือ

อาหารสำหรับแม่ให้นมบุตร

  • ลูกอ้าปากหาหัวนม (Searching)
  • ลูกดูด (Sucking)
  • ลูกกลืนน้ำนม (Swallowing)

และเกิด Reflex 2 อย่างจากแม่ ผลที่ได้คือ

  • Plolactin reflex (เป็น reflex จากร่างกาย) ยิ่งลูกดูดมาก ร่างกายก็จะหลั่งโปรแลคตินมาก ทำให้มีการผลิตน้ำนมมากขึ้น
  • Oxytocin reflex (เป็น reflex จากจิตใจแม่) ถ้าแม่มีอารมณ์ดี ไม่เครียด จะยิ่งทำให้การไหลของน้ำนมเป็นไปด้วยดี

ซึ่งเมื่อลูกดูดนมจากเต้าแม่จะเกิดผลคือ

  • ทำให้ร่างกายหลั่งโปรแลคตินเพิ่มขึ้น
  • มีการหลั่งออกซิโทซินจากถุงน้ำนมมายังท่อน้ำนมแล้วมาที่ลานหัวนม จากนันน้ำนมก็จะไหลเข้าปากลูก และฮอร์โมนนี้ทำให้มดลูกหดตัว ช่วยให้มดลุกเข้าอู่เร็วอีกทางหนึ่งด้วย

ยิ่งให้ลูกดุดนมแม่มากเพียงพอต่อความต้องการลูกเท่าไหร่ น้ำนมแม่ก็จะถูกผลิตออกมาเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่อความต้องการของลูก ทั้งนี้คุณแม่ต้องรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ไม่มีความเครียด เพื่อส่งเสริมการหลั่งน้ำนมให้ดียิ่งขึ้น อาหารที่เชื่อว่ามีสรรพคุณในการเพิ่มน้ำนมนั้นเป็นอาหารที่มีรสร้อน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้ร่างกายอบอุ่น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้น้ำนมมากขึ้น

ดังนั้นเมื่อมีน้ำนมแล้วลูกดูดตลอด ปัญหาน้ำนมแม่อาจลดน้อยลงหรือมีการผลิตไม่ทัน จึงต้องมีตัวช่วยสร้างน้ำนมเพิ่ม โดยสมุนไพรไทยเรานี่เองที่มีสรรพคุณและเป็นส่วนช่วยให้คุณแม่มีการเร่งผลิตน้ำนมให้ลูกได้โดยสมุนไพรดังกล่าวนั้นเป็นต้นว่า

อาหารสำหรับแม่ให้นมบุตร

  • หัวปลี ซึ่งอุดมไปด้วยแคลเซียม (มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า) โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบต้าแคโรทีน มีสรรพคุณ แก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ตั้งแต่โบราณสอนกันต่อๆมาว่าผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ ให้รับประทานหัวปลีมากๆ จะได้มีน้ำนมให้เลี้ยงลูกนานๆ อาหารแนะนำคือ แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ลวกจิ้วน้ำพริก (เวลาลวกให้ใส่เกลือและน้ำตาลลงในน้ำที่ตุ้มด้วย จะได้ลดความฝาด) ทอดมันหัวปลี หัวปลีชุบแป้งทอด
  • ใบกระเพรา มีคุณค่ามากมายเพราะมีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใย อาหารสูง ใบกระเพรามีสรรพคุณ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน ลดอาการปวดข้อ ปวดเข่า ลดเบาหวาน ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น อาหารแนะนำสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก คือ ใส่แกงเลียง ผัดกระเพรา แกงป่าหรือผัดเผ็ดต่างๆ เพราะในใบกระเพรามีกลิ่นหอมช่วยดับกลิ่นและรสคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี เพราะใบกระเพราที่ต้องซื้อ รสเผ้ดร้อน หรือคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยอาจจะลดน้อยลง เนื่องมาจากสถานที่ปลูก และปัจจุบันมีการใส่ปุ๋ยเร่งกันมากขึ้นลองสังเกตดูว่าคความฉุนของใบลดน้อยลงมาก
  • กุยช่าย มีคุณค่ามากมายทั้ง แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต เบต้าแคโนทีน วิตามินซี มีสรรพคุณ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แนะนำอาหารสำหรับแม่ให้นมลูก นำส่วนดอกมาผัดกับเนื้อสัตว์ หรือนำใบมากินสดแกล้มกับอาหารอื่นๆแต่ที่นิยมคือ ใส่ผัดไท
  • กานพลู มีคุณค่ามากมายโดย น้ำมันที่อยู่ในดอกกานพลู มีส่วนประกอบสำคัญคือ Eugenol ที่มีฤทธิ์ต่อร่างกาย กานพลูมีสรรพคุณเพราะ มีฤทธิ์ช่วยขับน้ำดีเพื่อนำไปย่อยอาหาร ลดอาการบีบตัวของลำไส้บรรเทาอาการแน่น จุกเสียด ลดความเป็นกรดในลำไส้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร แนะนำอาหารเพิ่มน้ำนม นำดอกตูมแห้งมา 5 – 8 ดอก ชงในน้ำเดือด แล้วดื่มแต่น้ำ
  • มะละกอ มีคุณค่าเพราะมีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และมีเอนไซม์ ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ ร่างกาย รวมถึงมีเส้นใยอาหารมาก มะละกอนั้นมีสรรพคุณช่วยบำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด อาหารแนะนำสำหรับเพิ่มน้ำนม รับประทานผลไม้สุกเป็นผลไม้ หรือถ้าแบบดิบ มักจะนำมาใส่แกงส้ม ส้มตำ
  • ฟักทอง มีคุณค่าเพราะ ฟักทองมีสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงร่างกายเยอะมาก ทั้งวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน มีสรรพคุณ เป็นตัวช่วยเสริมสร้างคลอลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส และอาจจะช่วยให้หน้าท้องลายน้อยลง เมนูแนะนำอาหารเพิ่มน้ำนม ฟักทองผัดไข่ แกงเลียง ฟักทองนึ่ง แกงบวดฟักทอง ไข่เจียวฟักทอง
  • ขิง คุณค่ามากมาย เพราะขิงมีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ บี1 บี2 คาร์โบไฮเดรต ขิงมีสรรพคุณ ช่วยขับลม แก้อาเจียน ช่วยย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการอาเจียน และเชื่อว่าเมื่อคุณแม่รับประทานเข้าไป สรรพคุณที่ดีของขิงจะผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก ทำให้ลูกไม่ปวดท้อง เมนูอาหารเพิ่มน้ำนมด้วยสมุนไพร ยำขิง ยำปลาทูใส่ขิง ไก่ผัดขิง มันหรือถั่วเขียวต้มน้ำขิง ไข่หวานน้ำขิงต้มอุ่นๆ โจ๊กใส่ขิง
  • ใบแมงลัก คุณค่าทางโภชนาการคือ มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซีสูง มีสรรพคุณมากมาย เพราะใบแมงลักมีรสหอมร้อน ขับลม ขับเหงื่อ อาหารแนะนำสำหรับเพิ่มน้ำนม ใส่แกงเลียง กินสดแกล้มกับขนมจีน หรือใส่แกงป่าต่างๆ

พืชผักชนิดต่างๆ และสมุนไพรต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น สังเกตให้ดีๆ จะเห็นว่า พืชผักที่คนโบราณบอกให้รับประทานเพื่อเรียกน้ำมันนั้น ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ให้ความร้อนแก่ร่างกาย ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารเป้นไปอย่างปกติ และประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอย่าง แคเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แต่คุณแม่ก็ต้องรับประทานอาหารชนิดต่างๆ ให้ครบทุกหมวดหมู่ รวมถึงผลไม้ เพื่อให้ระบบการย่อยทำงานให้เป็นปกติ

การดื่มน้ำอุ่น ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ให้นมลูกทุกท่านต้องหมั่นดื่มบ่อยๆทั้งวันโดยเฉพาะช่วงต้นของการให้นมลูก เป็นการเรียกน้ำนมได้ดีอีกทางหนึ่ง และที่ต้องย้ำอีกครั้งคือ ต้องให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างสม่ำเสมือ และเพียงพอตามที่ลูกต้องการ ถ้าเกิดอาการนมคัด หัวนมแข็ง ก็ต้องบีบให้น้ำนมไหลออกบ้างก่อนให้ลูกดูด ไม่เ่ช่นนั้นลูกดูดไม่ออก พาลจะไม่ยอมดูดนมแม่ในครั้งต่อๆ ไป

อาหารที่ควร งดเว้น สำหรับแม่ให้นมลูก

  • อาหารที่มีสรรพคุณทำให้เย็นเล่น บวบ ฟัก อันนี้คุณแม่ตั้งครรถ์ทานได้
  • อาหารหมักดอง
  • ยาดองเหล้าทุกชนิด
  • ยาสมุนไพรหรือยาทางเลือก
  • ยาแผนปัจจุบัน [เมื่อจำเปป็นต้องใช้ต้องปรึกษาแพทย์]
  • เนิ้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มกาเฟอีน

อ้างอิง Mother & Care

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกพี่เปรม

แม่ลูกผูกพัน

สายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยชาวตรัง

สุดตื้นตัน โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว จัดเลี้ยงอาหารพระราชทาน ช่วยชาวตรัง โดยจัดเลี้ยงอาหารพระราชทานจากครัวสายใยรักในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิ ราช สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม

เด็กกับอารมณ์

วิธีสอนการบ้านลูก เด็กวัยอนุบาล

ปกติแล้วโดยพฤติกรรมทั่วไปของเด็กๆ มักจะชอบเล่นซน ไม่อยู่นิ่ง หากสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของลูกได้นานเกิน 1 นาทีละก็ถือว่า เยี่ยมที่สุดแล้ว และพ่อแม่ควรมีเทคนิคและรับรู้วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจของเด็กวัยอนุบาลด้วยสิ่งต่างๆ รอบตัว คิดว่าคงไม่ต้องบอกว่าลูกชอบอะไร เพราเด็กแต่ละคนก็มีความชอบไม่เหมือนกัน ช่วงแรกเข้าเรียนอนุบาล น้องเปรมเองก็เป็นหนึ่งในเด็กที่ ซุกซน อยู่ไม่นิ่ง

สถานศึกษา

น้ำท่วมอย่างนี้ อนุบาลบ้านวังทอง จะเปิดเรียนได้ไหม

เห็นข่าวน้ำท่วมแล้วน่าตกใจ บ้านน้องเปรมในขณะนี้ก็ยังไม่ถือว่าแย่นัก แต่ก็ออกจากบ้านไปไหนมาไหนลำบาก เพราะถนนน้ำสูงประมาณ 1 เมตร หรือกว่านั้น เพราะน้ำขึ้นมาวันละนิ้วๆ แต่หากเปิดเทอมแล้วน้ำยังไม่ลด ก็คงต้องลำบากคุณน้าเจตที่ต้องขับรถมาส่งน้องเปรมที่บ้านน้า

เด็กกับอารมณ์

ทำยังไงดีกับลูกขี้วีน

ไม่ใช่ว่าจะสามารถปรามพยศ หรือกำจัดนิสัยชอบเหวี่ยง หรือขี้วีนของลูกได้แล้วหรอกนะ แต่อยากจะมาแชร์ความรู้สึกและวิธีรับมือว่า น่าจะประมาณนี้แหละ เพราะนี้ก็ได้ดูข้อมูลมาจากคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านแล้ว กับ

สถานศึกษา

ไปเรียนได้อาทิตย์เ้ดียวก็ป่วยซะแล้ว

เฮ่อ น้องเปรม ป่วยซะแล้วอ่ะ ไปเรียนได้อาทิตย์เดียว หลังจากเลิกเรียนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (18 มี.ค.54) พอวันเสาร์ก็จามนิดๆ วันอาทิตย์ก็น้ำมูกไหล เลอะเทอะหน้าไปหมด หมดหล่อเลย พอกลางคืนก็ไอแค๊กๆ แย่ล่ะ กินยาตั้งแต่เช้า ไม่ทุเลาเลย

พัฒนาการเด็ก

ความฉลาด ที่ควรรู้

การประเมินความฉลาด มีตัวแปรความฉลาดที่คุณควรรู้เอาไว้ว่า ความสำเร็จในชีวิตย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนไฝ่หา หากเราจะไปให้ถึงจุดนั้นได้ หรือผลักดันใครซักคนให้ไปถึง ในทางจิตวิทยาได้ว่าเอาไว้ว่าจะต้องประกอบไปด้วยความฉลาด 6 อย่าง ที่เกี่ยวข้องกัน โดยหลักๆ คือความฉลาดทางปัญญา