การเรียนรู้ของเด็ก ช่วงปีใหม่

เป็นบทความดีๆ ในเรื่องของลูกๆ โดยคุณสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน วันนี้ขอนำมาเล่าต่อในเรื่องของ เปิดการเรียนรู้ของลูก อย่าปล่อยให้ช่วงปีใหม่ลอยนวล เพราะเห็นว่ากำลังอยู่ในช่วงของเทศกาลปีใหม่ และสัปดาห์นี้ก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี 54 ซึ่งอีกไม่กี่วันก็เข้าสู่ปีใหม่ 2555 กันแล้ว ว่ากันว่าเป็นปีที่โลกแตก แต่เราก็ยังมีเรื่องราวอะไรที่ยังไม่ได้ทำให้ปีนี้หรือยังทำไม่สำเร็จก็น่าจะถือโอกาสสิ้นปีเก่าทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดทั้งปี แล้วเตรียมพร้อมรับสิ่งใหม่ก็น่าจะดีไม่น้อย

สำหรับคนเป็นพ่อแม่อาจจะมีภารกิจพาครอบครัวไปพักผ่อน ควรจะถือโอกาสนี้หาช่วงเวลาในการพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัว ทบทวนบทบาทของพ่อแม่ และลูกๆ ไปด้วยกัน โดยเริ่มจากการตั้งคำถามถึงช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาว่าลูกเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง และอยากจะปรับปรุงอะไรบ้าง โดยที่พ่อแม่ควรมีส่วนในการกระตุ้นให้ลูกฝึกคิด และตั้งใจฟังเขาด้วยความเต็มใจ พยายามให้เขาอยากพูดออกมาแบบไม่อึดอัด เพื่อให้เขาเรียนรู้จักตัวเองด้วย และขณะเดียวกัน อาจเปิดโอกาสให้เขาได้วิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ด้วยก็ได้ เช่น มีอะไรที่อยากจะบอกพ่อแม่ไหม หรือมีอะไรที่คิดว่าไม่ชอบที่จะให้พ่อแม่ทำอะไรบ้าง

พ่อแม่อาจจะเป็นผู้เริ่มบอกถึงข้อดีข้อเสียของตัวเองก่อนก็ได้ และบอกด้วยว่าพ่อแม่จะปรับปรุงอย่างไร เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าผู้ใหญ่ก็ผิดพลาดได้เช่นกัน แต่ผิดพลาดแล้วก็พร้อมที่จะปรับปรุงตัว ซึ่งการเปิดโอกาสให้ลูกได้คิด ได้พูด อาจจะทำให้เราได้สะท้อนอะไรจากลูกด้วยก็ได้ เพราะอาจจะเช่นกันที่ลูกไม่ชอบการกระทำบางอย่างของพ่อแม่ แต่เมื่อพ่อแม่เปิดโอกาสและรับฟังเขา พร้อมทั้งยอมที่จะปรับปรุงพฤติกรรมบางอย่างที่ลูกร้องขอ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกดี และเรียนรู้ว่าพ่อแม่รักเขา และยินดีที่จะรับฟังและแก้ไขตัวเองเช่นกัน

ขณะเดียวกันเราก็สามารถสอดแทรกและปลูกฝังเรื่องราวดีๆ ให้กับลูกในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปในตัวด้วย เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวก่อน

ชวนลูกทำบุญต้อนรับปีใหม่ การชวนลูกใส่บาตรในตอนเช้ารับปีใหม่ โดยอาจจะให้ลูกมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหารสำหรับทำบุญด้วย ถ้าพ่อแม่ทำอาหารเอง ก็อาจชวนเด็กๆ ช่วยทำด้วย และควรสอดแทรกเรื่องการทำบุญที่ถูกวิธีว่าควรจะทำอย่างไร โดยไม่ลืมที่จะสอดแทรกเรื่องธรรมให้กับลูกด้วย หรืออาจจะชวนลูกไปวัด ให้ได้เห็นพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่มารวมตัวกันทำบุญ จะได้ทำให้เด็กๆ ได้ซึมซับเอาวิถีวัฒนธรรมของชาวพุทธ หรือถ้าเป็นศาสนาอื่นก็ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละศาสนาไปด้วย

อวยพรปีใหม่ให้ลูก การสร้างวัฒนธรรมในครอบครัวด้วยการที่พ่อแม่อวยพรลูกในเทศกาลสำคัญเสมอๆ จะทำให้บรรยากาศของครอบครัวมีความหมายมากขึ้น เป็นการแสดงความรักความผูกพันและการใช้คำพูดที่ดีจะเป็นการฝึกเรื่องทักษะการใช้ภาษาให้กับลูกได้ด้วย หรืออาจใช้ช่วงเวลานี้พาลูกไปกราบปู่ย่าตายายหรือญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก เพื่อไปขอพรปีใหม่จากท่าน รับรองว่าผู้หลักผู้ใหญ่จะต้องปลาบปลื้มและดีใจอย่างยิ่งที่ลูกหลานยังคิดถึงท่านและมาหาท่านในโอกาสสำคัญ ซึ่งเท่ากับเป็นการสอนเรื่องการกตัญญูให้กับลูกของเราได้เรียนรู้ด้วย ยิ่งถ้าคุณให้ความสำคัญกับพ่อแม่ของคุณมากเท่าไร ก็เท่ากับเป็นการสร้างรากฐานให้ลูกของคุณรักและกตัญญูต่อคุณด้วยมากเท่านั้น

สอนลูกเรื่องน้ำใจจากของขวัญ ถือโอกาสชวนลูกให้นึกถึงคนที่เขารู้สึกดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คุณครู หรือใครก็ตามที่มีความหมายต่อเขา ให้เขาลองจดรายชื่อคนที่เขารู้สึกดีในตลอดช่วงทั้งปีที่ผ่านมา และอยากจะมอบของขวัญให้แก่คนเหล่านั้น เท่ากับเป็นการสอนให้เขานึกถึงเหตุการณ์ดีๆ ที่มีคนเคยมีน้ำใจหรือดีต่อเขา และเมื่อถึงเทศกาลส่งความสุขก็อยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนเหล่านั้นเช่นกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการสอนเรื่องการมีน้ำใจต่อคนอื่น และถ้าเขาได้รับของขวัญจากใครก็ต้องกล่าวขอบคุณทุกครั้ง เป็นการสอนให้ลูกเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับที่ดี

เรียนรู้จากงานเลี้ยง สอนให้ลูกเรียนรู้ว่าการไปงานปาร์ตี้ต่างๆ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร งานแต่ละประเภทแต่ละสถานที่มีความแตกต่างกันอย่างไร เป็นการสอนเรื่องการเรียนรู้ในการเข้าสังคมให้กับเขาด้วย เช่น ถ้าไปบ้านเพื่อน ก็ต้องสอนเรื่องมารยาทในการไปบ้านคนอื่น หรือถ้าเพื่อนมาบ้านเรา ในฐานะเจ้าของบ้านควรปฏิบัติตัวอย่างไร โดยรวมไปถึงเรื่องอาหารการกินก็ควรให้ลูกได้เลือกกินให้เหมาะสม เพราะปกติงานเลี้ยงส่วนใหญ่ ก็จะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย แต่อาหารส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยไขมัน และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ รวมถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมก็จะเยอะมาก ก็ต้องสอนให้ลูกเลือกกิน หรือกินแต่พอเพียง ไม่กินทิ้งกินขว้าง และหลังจากกินแล้วก็ต้องกระตุ้นให้เขาได้ใช้พลังงานด้วยการออกกำลังกายด้วย และถ้าจะให้ดีก็ชวนกันออกกำลังกายกันทั้งครอบครัวเสียเลย ที่สำคัญเสร็จจากงานเลี้ยงก็อย่าลืมแปรงฟันให้สะอาดด้วยนะคะ

กระตุ้นให้ลูกนึกถึงคนที่ด้อยโอกาสกว่า ควรฝึกให้ลูกได้คิดถึงคนที่ด้อยโอกาสกว่าด้วย บอกลูกว่าในขณะที่เรามีความสุข ฉลองปีใหม่ แต่ก็มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่เขาขาดโอกาสเหล่านี้ อาจจะชวนลูกไปทำทานที่บ้านเด็กกำพร้า เด็กพิการ หรือบ้านคนชรา ฯลฯ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งปัน การคิดถึงและเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์ ให้เขาเห็นว่าจากสิ่งที่เขามี สิ่งที่เขาเป็น ก็โชคดีกว่าคนอื่นอีกมากมาย เขาจะได้เห็นคุณค่าในตัวเอง และอยากที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วย

เรียนรู้สิ่งรอบตัว สอนให้ลูกรู้จักเทศกาลปีใหม่ที่มีความแตกต่างกันของเชื้อชาติต่างๆ ด้วย มีเทศกาลปีใหม่สากล เทศกาลปีใหม่ของชาวจีน หรือเทศกาลปีใหม่ไทย และมีความแตกต่างกันอย่างไร ก็อาจถือโอกาสพูดคุยด้วยเลย ทั้งยังควรชวนให้ลูกสนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว หรืออาจจะตั้งเป็นโจทย็ให้ลูกก็ได้ว่าลูกอยากจะทำสิ่งใดใหม่ๆ ก่อนจะขึ้นปีใหม่หรือไม่

ไหนๆ ก็ไหนๆ จะข้ามปีกันแล้ว ควรถือโอกาสเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ร่วมกันในครอบครัวเสียเลยค่ะ เพราะการปลูกฝังสิ่งดีๆ ทำได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา อยู่ที่จะมองเห็นหรือเปล่า..!!

ก็ขอให้สนุกกับเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่กับครอบครัวคุณด้วย ขอให้มีความสุขทุกท่าน

ที่มา manager.co.th

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกพี่เปรม

พัฒนาการเด็ก

ผมไม่ได้โกหกนะ

ในบางครั้งเด็กจะแสดงให้เห็นถึงภาพสะท้อน ถึงความอึดอัดของเด็กน้อยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แม้ว่าเขาจะพยายามทำตาแป๋ว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยหวังว่าการทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แบบซื่อๆ นี้จะใช้ได้ผลก็ตามกับผู้ปกครองบางคน แต่จาก ปัญหาเด็กโกหก

เด็กกับอารมณ์

ทำยังไงดีกับลูกขี้วีน

ไม่ใช่ว่าจะสามารถปรามพยศ หรือกำจัดนิสัยชอบเหวี่ยง หรือขี้วีนของลูกได้แล้วหรอกนะ แต่อยากจะมาแชร์ความรู้สึกและวิธีรับมือว่า น่าจะประมาณนี้แหละ เพราะนี้ก็ได้ดูข้อมูลมาจากคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านแล้ว กับ

เด็กกับอารมณ์

ลูกไม่ยอมกินข้าว เอาแต่เล่น และไม่ชอบทานผัก

เอาอีกแล้ว ปัญหาเจ้าตัวเล็กนับวันยิ่งทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่เดินได้พูดได้ แถมวิ่งเล่นได้นี่ เวลาจะเรียกให้ทานข้าวล่ะก็เป็นต้องอิดออดทุกที เชื่อไหมว่า เด็กน้อยบางคนใช้เวลากินข้าวเพียงมื้อเดียวตั้ง 1-2 ชั่วโมง เป็นเหตุให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายกลุ้มใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี

โรคในเด็กเล็ก

ในที่สุดก็ได้เป็น มือ เท้า ปาก

หลังจากก่อนหน้านี้ น้องเปรมได้หยุดเรียน แต่ไม่ได้ป่วย เป็นกรณีพิเศษ และเด็กๆ ทุกๆ คนในโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ก็ได้หยุดเรียนแบบต้องนัดกันหยุดตามประกาศของคุณครูไปแล้ว เพราะที่โรงเรียนเกิดมีเด็กเป็นโรค มือ เท้า ปาก เปื่อยกัน จึงต้องปิดทำความสะอาดกันยกใหญ่ในวันนั้น ผ่านมากว่าเดือน

สถานศึกษา

ปวดหัวกับหลักสูตรการเรียนปัจจุบัน

ผมล่ะเบื่อที่สุดกับการขอร้องแกมบังคับให้เจ้าลูกชายหันมาอ่านหนังสือ ปกติน้องเปรมจะเป็นคนที่ชอบหนังสือมาก ตั้งแต่ตอนยังเล็กก็ชอบเอาหนังสือรูปกาตูนมาให้ทายเล่น เอามาชี้ๆ ถามพ่อแม่เสียงเจื้อยแจ้ว แต่ตั้งแต่รู้จักกับหนังสือ ดรุณศึกษา น้องก็ไม่ค่อยจะชอบ

โรคในเด็กเล็ก

โรคคาวาซากิ ในเด็กเล็ก

ตัวอย่างเหตุการณ์ เด็กชายบอยอายุ 2 ปี มีไข้สูงมา 5 วัน มีผื่นแดงตามลำตัว ตาแดง มีผื่นแดงตามลำตัว คุณแม่พาไปพบแพทย์ตั้งแต่เป็นไข้วันแรก แพทย์บอกว่าคอแดงเล็กน้อยได้ยาลดไข้และยาแก้อักเสบมากิน ผ่านมา 5 วันลูกยังมีไข้สูง