ปัญหาน้ำท่วมไม่ว่าเจอที่ไหนก็มีแต่แย่กับแย่ ซึ่งผลกระทบที่ตามมานั้นแม้ว่าจะไม่เห็นทันตาในหลายๆ เรื่องแต่นักโภชนาการชื่อดังได้ออกมาเตือนแล้วเกี่ยวกับเด็กเล็กที่ไม่ได้รับสารอาหารมีประโยชน์นาน 1 เดือน เสี่ยงสมองไม่โต เตี้ย ผอมและไอคิวต่ำ โดยนายสง่า ดามาพงษ์ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตือนว่า ในภาวะน้ำท่วมติดต่อกันยาวนาน พ่อแม่ไม่ควรละเลยการดูแลเด็กด้านอาหารและโภชนาการ โดยเฉพาะเด็กอายุแรกเกิด – 5 ขวบเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพและภาวะโภชนาการมากที่สุด
ร่างกายและสมองของเด็กจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายทุกมื้อ เพราะการเจริญเติบโตของเซลล์ทุกเซลล์ เม็ดเลือด กระดูกและกล้ามเนื้อของเด็กไม่สามารถจะหยุดรอได้ แม้ว่าจะเป็นภาวะน้ำท่วมหรือภาวะวิกฤติใดๆ
กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน แม่ควรให้ลูกกินนมแม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเองต้องพึ่งนมผสมนั้น ต้องรีบเคลื่อนย้ายทั้งแม่และลูกมาอยู่ในสถานที่ ที่สามารถเข้าถึงนมผสมและน้ำสะอาดสำหรับทารกให้ได้ ไม่แนะนำให้นั่งรอขอความช่วยเหลือจากภายนอก
“การที่เด็กเล็กได้รับอาหารไม่เพียงพอ ทั้งปริมาณและคุณภาพติดต่อกันเพียง 2-4 สัปดาห์ มีผลทำให้ร่างกายเด็กพร่องสารอาหารที่สำคัญหลายตัว ทั้งโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ นำไปสู่การขาดสารอาหาร” นักโภชนาการ กล่าว
อาการที่แสดงออกมาให้เห็นในระยะสั้นคือ การเจริญเติบโตของร่างกายไม่เต็มตามศักยภาพ น้ำหนัก ส่วนสูง ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน รูปร่างผอมในที่สุดภูมิต้านทานก็จะต่ำ เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะโรคติดเชื้อทั้งหลาย หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการฟื้นฟูแก้ไข จะยิ่งเพิ่มความรุนแรง และเกิดผลเสียต่อการเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและสติปัญญาเด็กในอนาคต กล่าวคือเด็กจะตัวเตี้ย ผอมและไอคิวต่ำ
สำหรับกลุ่มเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เป็นวัยที่ต้องได้รับอาหารตามวัย เสริมเติมจากนมแม่เสริมอีกทางหนึ่ง เพราะลำพังนมแม่แม้ว่าคุณค่าทางโภชนาการจะยังพร้อมมูลอยู่ แต่ปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเด็ก ที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงต้องเริ่มให้ข้าวบดผสมน้ำแกงจืด ไข่แดงต้มสุกสลับกับเนื้อปลา หมู ไก่ ตับสัตว์ และผสมผักใบเขียว ฟักทอง แครอท มะเขือเทศต้มสุก เด็กอายุ 6 – 8 เดือนกินอาหารเหล่านี้ได้ 1 มื้อ
ส่วนเด็กอายุ 8 – 10 เดือนกินอาหารได้ 2 มื้อ และพอครบ 11 – 12 เดือนกินอาหารได้ 3 มื้อ หากแม่มีความจำเป็นต้องใช้อาหารทารกกึ่งสำเร็จรูป ต้องมั่นใจว่าเด็กได้โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุจากผักและเนื้อสัตว์พอ โดยควรบดผสมลงไปเพิ่มเติมด้วย พร้อมทั้งยังคงให้ลูกได้กินนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยนี้ไปจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้น
กลุ่มเด็กอายุ 1 – 5 ขวบ เด็กวัยนี้ต้องการสารอาหารที่มีคุณค่าไปหล่อเลี้ยงให้เติบโตสมวัย แต่เด็กเหล่านี้มักจะถูกละเลย เพราะพ่อแม่คิดว่าโตแล้วและช่วยเหลือตนเองได้ ประกอบกับพ่อแม่ไม่มีเวลา มัวแต่ไปแก้ปัญหาน้ำท่วม
ดังนั้น พ่อแม่ต้องใส่ใจดูแลอาหารลูกเป็นพิเศษ ต้องแบ่งปันอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เด็กเล็กกินก่อน อาหารที่มีคุณค่าในภาวะน้ำท่วมคงหนีไม่พ้นไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่น้ำ หมูทอด ไก่ทอด ปลาทูนึ่งและปลากระป๋อง สามารถดัดแปลงปรุงได้สารพัดเมนู เมนูเหล่านี้ควรปรุงด้วยเกลือและน้ำปลาเสริมไอโอดีน และให้เด็กดื่มนมรสจืดวันละ 2 – 3 กล่องเป็นอาหารเสริมได้
ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สุ่มตรวจวิเคราะห์เชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคเอนเทอโรแบคเตอร์ ซากาซากิ (Enterobacter sakazakii) ในผลิตภัณฑ์อาหารทารกและเด็กเล็ก จำนวน 50 ตัวอย่าง ปรากฏว่า ไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว และจะยังคงติดตามเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จึงขอให้ผู้บริโภควางใจ
ที่มา bangkokbiznews.com
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกพี่เปรม
พัฒนาการเด็ก
หัดพับกระดาษสอนลูก Origami
อันนี้เป็นบทความในข่าวของ gotomanager.com เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคุณพ่อที่มีลูกวัยซนอย่างผมได้ เมื่อเริ่มอ่านไปจนถึงครึ่งเรื่องนี้ความคิดที่ยังค้างอยู่ในหัวเกี่ยวกับว่า จะเอาจินตนาการของลูกวัยซนออกมาเป็นสิ่งจับต้องได้อย่างไร ให้เกิดการพัฒนาเชิงตรรกะ แต่พออ่านแล้วเจอเข้า
โรคในเด็กเล็ก
อยากไปโรงเรียน แต่ดันป่วยซะนี่
วันจันทร์ น้องเปรม ก็ยังป่วย และแล้วคุณแม่ก็ต้องโทรหาคุณน้าเจต คนขับรถรับส่งนักเรียน โรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ว่าวันนี้ไม่ต้องมารับน้องเปรมนะ เพราะคุณลูกตัวดีป่วยซะแล้ว ก็จะทำยังไงได้ล่ะ คืนวันเสาร์อากาศร้อน
สถานศึกษา
KG 3 เทอมสองแล้ว
หลังจากเข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่แล้ว และเรียนได้ครบเทอม คุณแม่ก็ทำการจ่ายค่าเทอมลูกอีก 1 ภาคเรียน เนื่องจากยังไม่เห็นผลแน่ชัดว่า ลูกจะชำนาญภาษาอังกฤษแค่ไหน เพราะไม่ได้อยู่เฝ้าดูการเรียนเหมือนในโรงเรียนอนุบาลทั่วไป ที่นี่ดูเหมือนว่าจะเข้มงวดสำหรับผู้ปกครองเป็นพิเศษ
สถานศึกษา
เมื่อลูกต้องย้ายโรงเรียน
เมื่อถึงคราวที่ลูกจำต้องย้ายที่เรียนจากโรงเรียนเดิมไปยังโรงเรียนใหม่ ปัญหาและอุปสรรคไม่ได้เกิดกับลูกอย่างเดียว แต่เกิดกับพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างผมและครอบครัวด้วยเหมือนกัน หลายคนมองว่าเด็กวัยอนุบาลการย้ายที่เรียนหมายถึงการย้ายที่เล่น แต่เรื่องจริงไม่ใช่ เพราะหากย้ายเนื่องจากเรียนจบก็ว่าไปอย่าง เค้าจะเข้าใจว่าจบและย้ายหรือไม่ก็ได้ แต่การย้ายที่เรียนโดยที่ยังเรียนไม่จบ ต้องให้เหตุผลที่ถูกต้อง เฉพาะน้องเปรมก็เหลือแค่ปีเดียว
แม่ลูกผูกพัน
สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่ควรสอนให้ลูก
หน้าที่ของพ่อแม่คือ การอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนมีความอดทน มีความพยายาม รวมทั้งมีใจขวนขวายหาความรู้ อีกทั้งสอนให้ลูกมีทักษะในการพูด อ่าน เขียน ครอบครัวเป็นสถาบันที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นของการพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก
สถานศึกษา
วัดความเก่งของ เด็กวัยอนุบาล
ชอบที่คำถามของคุณแม่ท่านหนึ่งที่ถามคุณครูจินว่า การแยกห้องเรียนในชั้นอนุบาล และการวัดความเก่งของเด็กในวัยอนุบาลนี้ สามารถทำได้หรือไม่ โดยคุณแม่ถามท่านหนึ่งได้ถามว่า อยากทราบเรื่องการแยกห้องเรียนอนุบาล…เป็นห้องเด็กเก่งกับห้องเด็กไม่เก่งคะ รู้สึกว่าห้องเด็กไม่เก่ง