กิจกรรมพิเศษหลังเลิกเรียน ที่อนุบาลบ้านวังทอง

ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ในเทอมสองนี้มีกิจกรรมหลังเลิกเรียนตั้งแต่วันธรรมดา ไปจนกระทั่งถึงวันเสาร์มากมาย ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อต้องการเสริมสร้างหลักสูตรให้แก่เด็กๆ โดยทางโรงเรียนพิจารณากิจกรรมที่เหมาะสมกับการพัฒนาการของเด็กในระดับปฐมวัย หรือวัยอนุบาลนี้ขึ้น โดยกิจกรรมพิเศษทุกๆ กิจกรรมเป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองสามารถเลือกที่จะให้ลูกๆ ได้เรียนอย่างเสรีได้ ไม่เป็นการบังคับ โดยกิจกรรมที่ทางอนุบาลบ้านวังทองเปิดในเทอม 2 นี้มีดังนี้

กิจกรรมพิเศษหลังเลิกเรียนและกิจกรรมในวันเสาร์ของโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทองในเทอมหรือภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554

  • กิจกรรมเรียนศิลปะ
  • กิจกรรมบัลเล่ต์
  • กิจกรรมเทควันโด
  • กิจกรรมภาษาอังกฤษ
  • การเรียนพิเศษในระดับอนุบาล 2 และอนุบาล 3 วันธรรมดาและวันเสาร์

ซึ่งเข้าใจว่าทางโรงเรียนได้แจ้งและมีหนังสือไปยังผู้ปกครองแล้วโดยแบบตอบรับก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้ลูกๆ ได้เรียนกิจกรรมไหน แต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถเลือกเรียนหลายกิจกรรมได้หรือไม่โดยที่วันเรียนก็เลือกที่ไม่ตรงกันจะได้ไม่เกิดปัญหา แม่น้องเปรมคิดว่าอยากจะให้ลูกๆ ได้เรียนกิจกรรมด้านศิลปะ และภาษาควบคู่กันไป จริงๆ ที่บ้านก็ให้น้องได้หัดวาดหัดเขียนแล้วแต่อยากจะต่อยอดให้ลูกได้เรียนรู้นอกบ้านบ้าง ส่วนกิจกรรมด้านภาษาทางเราไม่มีความชำนาญมากนัก แม้ว่าจะเปิดเพลงสากล เปิดภาพยนต์ที่เป็นซาวด์แทรกให้ลูกนั่งดูก็ตาม (น้องเปรมชอบดูหนังซาวด์แทรก แม้ว่าจะฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกับคนในบ้านอีกหลายคนแต่ก็อยากจะให้คุ้นชินกับภาษาไว้ก่อน) ซึ่งดูเนื้อหาในกิจกรรมด้านภาษาก็คงจะเป็นแบบนี้ คือให้เด็กๆ ได้คุ้นชินกับสำเนียง และภาษามากกว่าการเข้าใจ

กิจกรรมพิเศษหลังเลิกเรียน และกิจกรรมวันเสาร์ กิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการ

ส่วนกิจกรรมบัลเล่ต์คงขอผ่านเพราะลูกเป็นผู้ชาย กิจกรรมเทควันโด ก็น่าสนใจแต่คิดว่าเด็กขนาดนี้จะเน้นไปในเรื่องกีฬาแบบนั้นคงยังไม่ถึงเวลาเท่าไหร่ อีกอย่างหากขึ้น อนุบาล 3 ก็อาจจะให้เริ่มเรียนได้โดยลดทางวิชาการน้อยลงหน่อย หรือคุณแม่ท่านอื่นอาจจะให้ลูกยังไม่ต้องเน้นวิชาการแล้วไปเน้นเอาตอน อนุบาล 2-3 ก็ไม่ว่ากันเพราะต้องเตรียมตัวสอบเข้าชั้นประถม แต่แม่น้องเปรมได้สอบถามไปยังคุณครูตุ่นที่เป็นครูประจำชั้นน้องเปรมห้อง Lady Bug แล้วได้ข้อสรุปว่า ชั้นอนุบาล 2 และ 3 นั้นในการเรียนการสอนในเวลาเรียนก็เริ่มที่จะเน้นทางด้านวิชาการเข้าไปแล้วด้วย หากจะให้ลูกเน้นวิชาการหนักเข้าไปอีกก็กลัวว่าจะเกินรับไหว แต่ก็อยู่ในช่วงอนาคต ถึงตอนนั้นคุณแม่เองอาจเปลี่ยนแผนหากลูกต้องการเรียนด้านวิชาการแทนทักษะอื่น

สำหรับเรื่องความประสงค์จะขอเข้ากิจกรรมไหนทางโรงเรียนก็ให้ทางผู้ปกครองส่งแบบตอบรับได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 54 เพราะกิจกรรมก็น่าจะเริ่มในเทอม 2 อยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เยอะมากแม่น้องเปรมไม่มีเวลาพิมพ์แฮะ เอาเป็นว่าสรุปดังนี้ละกันค่ะ

  • กิจกรรมพาหนูสู่ปัญญา เข้าใจว่าน่าจะเป็นกิจกรรมด้านศิลปะ เรียน 29 ครั้ง ต่อเทอม ครั้งละ 1 ชั่วโมง เรียนเวลา 14.30-15.30 น. ค่าเรียน 3,000 บาท ต่อ เทอม กิจกรรมนี้คุณแม่น้องเปรมบอกไปหรือยังหว่าไม่แน่ใจ ในเอกสารเค้าอธิบายว่าเพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับการเรียนรู้ผ่านการเล่นในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย เช่นกิจกรรมศิลปะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การทดลองวิทยาศาสตร์ให้เด็กๆ ได้สืบค้นและสังเกตุหาเหตุผล งาน Cooking ง่ายๆ เพื่อเชื่อมโยงสู่ทักษะชีวิต โดยการเรียนทุกวันพฤหัส และทุกวันจันทร์ รวม 29 ครั้ง เริ่มเรียนวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554 ที่สำคัญ มีรถรับส่งสำหรับนักเรียนที่เรียนพิเศษในรอบสอง เวลา 16.30 น.
  • กิจกรรมภาษาอังกฤษ English for little learners ค่าเรียนคอร์สละ 1,600 บาท เรียน 16 ครั้ง ต่อเทอม สอนโดย Teacher Dee, Teacher Lynn โดยเรียนสัปดาห์ละ 1 วัน คือทุกวันศุกร์ เวลา 14.30-15.30 น. เริ่มศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554 เลย การเรียนการสอนก็เป็นไปในแนวทางที่ต้องทำความคุ้นเคยกับภาษาที่สองเพื่อการสื่อสารและเตรียมความพร้อมในการเรียน เริ่มจากการคุยสนุกสนาน ผ่านการเล่น ฟังเพลง เล่นเกม นิทาน เพื่อให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยกับการฟัง การพูด เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นไป
  • สำหรับกิจกรรมอื่นเช่น บัลเล่ต์ และกิจกรรมเทควันโด น่าจะเป็นวันเสาร์นะคะไม่แน่ใจ แต่ในเอกสารไม่ได้ระบุเอาไว้ แม่น้องเปรมเลยไม่มีข้อมูลมาให้อ่านกัน

ก็ลองๆ ดูนะคะ สำหรับน้องเปรมคุณแม่ก็อยากจะให้ลูกเรียนศิลปะกับภาษาไว้ก่อน เพราะดูเหมือนลูกจะจินตนาการสูงเอามากๆ ไม่อยากให้จินตนาการลูกหายไปเพราะวิชาการมากนักน่ะค่ะ อ่อ ส่วนเรื่องกีฬาคุณพ่อน้องเปรมเค้าก็อาจดัดแปลงมาสอนลูกได้เพราะเค้าเป็นมวยไทย คิ๊กๆ แล้วก็เรียนเคนโด้อยู่ด้วย เรื่องนี้คงไม่ยากถ้าอยากจะให้ลูกเล่นกีฬา

ส่วนเรื่องจินตนาการ ทางเราก็ต้องศึกษาข้อมูลก่อน นี่ก็ว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกชมรมพับกระดาษที่เคยลงไว้เมื่อวานด้วย ความจริงเล่นกับลูกนี่สนุกที่สุดแล้ว เพียงแต่ต้องหาเวลา น่าเสียดายที่วันธรรมดาไม่ค่อยได้อยู่กับลูกเท่าไหร่ แต่ก็ใกล้ปิดเทอมแล้ว คงจะมีเวลามากขึ้น

สู้ๆ ค่ะ คุณแม่ที่รักลูกทั้งหลาย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกพี่เปรม

พัฒนาการเด็ก

เข้าคอร์ส ออกกำลังกายสมอง

หลักสูตรนี้ คุณพ่อสอนลูกเอง โดยอาศัยหลักการออกกำลังกายสมองตามสไตล์ญี่ปุ่น ที่หลงไหน นำมาดัดแปลงใช้กับลูก เริ่มแรกก็ต้องเจ้าคนโตก่อน ส่วนคนเล็กยังเล็กมาก เค้าบอกว่า สมอง นั้นเป็นรูปธรรมของสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต การออกกำลังกายสมองที่ว่านั้นความจริงก็คือการกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวนั่นเอง

สถานศึกษา

น้องเปรมหกล้มหน้าไปชนบันได

ว๊ายๆๆ หน้าบวมปูดเลย ตรงหว่างคิ้วพอดี เหมือนไปเสริมดั้งมา จะนั่งขำปนร้องไห้หรือจะร้องไห้ปนขำดีเนี่ย ที่ลูกซนยังกะลิง หกล้มแล้วหน้าไปชนกับขั้นบันไดตรงลานสนามเด็กเล่นภายในโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ลูกเราทำไมซนจัง สอบถามครูบอกว่าขนาดเกิดเหตุหนักขนาดนี้ ก็ยังไม่เลิกซน ช่วงเช้าคุณพ่อเค้าพาไปส่งเข้าเรียนแล้วอาการตอนแรกก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สถานศึกษา

เกษตรพอเพียงกับทักษะทางความคิดของเด็ก

เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์นั้น การอบรมและเลี้ยงดูและปลูกฝังในเรื่องแนวคิดต่างๆ มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการการเรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้าน จากบิดา มารดา จากคนรอบข้างและและสิ่งแวดล้อม

พัฒนาการเด็ก

สร้างศักยภาพสมองให้ลูก

ทารกรับรู้กลิ่นและรสได้อย่างไรนะ เป็นข้อสงสัยที่นำไปสู่การศึกษาวิจัยเพื่อหาคำตอบชองบรรดานักวิทยาศาสตร์ค่ะ โดยเขาเห็นว่าการรับรู้เรื่องกลิ่นและรสของทารกนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด

โรคในเด็กเล็ก

พ่ออายุมาก เสี่ยงมีลูกเป็น ออทิสติก

ผลการวิจัยจากศาสตราจารย์ชื่อดังในต่างประเทศนั้นระบุได้ว่า จากการศึกษาและทดลองในหนูทดลองแล้ว สามารถสรุปและชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ว่า เด็กที่เกิดจากพ่อที่มีอายุมาก จะมีการเปลี่ยนแปลงทางยีนที่เกี่ยวข้องกับการเป็น ออทิสติกและโรคสมองเสื่อม

เด็กกับอารมณ์

หยุดพฤติกรรม หนูไม่ได้ดื้อเงียบ นะ

คุณพ่อคุณแม่เคยรู้บ้างไหมว่าทำไมลูกถึงมีอาการ ดื้อเงียบ หรือเคยสงสัยไหมว่า ทำไมลูกเราเวลาปกติก็พูดจ้อได้ไม่หยุด แต่พอบทจะดื้อนิ่งไม่ฟังใครเอาเสียดื้อๆ เหตุที่หนูน้อยมีการดื้อลักษณะแบบนี้ เป็นพัฒนาการทางอารมณ์อย่างหนึ่งของเด็กในวัย 2-3 ขวบ