วันนี้ได้มีโอกาสมาดูเด็กๆ เรียนหนังสือและได้ใกล้ชิดถึงในห้องเรียนกับโครงการ Present IEC หรือ หลักสูตร International English Class ที่มีจุดประสงค์สำหรับให้เด็กๆ เตรียมความพร้อมเพื่อต่อยอดเข้าโครงการสำหรับภาคเรียนอินเตอร์ หากผู้ปกครองสนใจที่จะให้บุตรหลานเข้าเรียน
บรรยากาสโดยรวมถือว่าใช้ได้ ผู้สอนทั้งชาวต่างชาติและผู้ช่วยซึ่งเป็นชาวไทยก็สื่อได้ดี มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ดี ทำให้เห็นและคิดว่าเด็กสมัยนี้ต้องแข่งขันกันสูงตั้งแต่เด็ก คนช้าอาจไม่มีที่ยืนหรือยืนลำบากหรือเปล่า ยิ่งได้เห็นอย่างใกล้ชิดว่าเด็กแต่ละคนต่างก็แย่งกันตอบโจทย์ที่ผู้สอนนำเสนอได้อย่างถูกต้อง ยิ่งทำให้เห็นว่าประสิทธิภาพการสอนเริ่มต้นไปได้สวย
จะมีเด็กบางคนที่ไม่ค่อยสนใจหรืออาจเขินไม่คุ้นกับการที่มีผู้ปกครองมานั่งเรียนด้วยเต็มห้องไปหมด ตอนแรกก็นึกสงสัยว่าผู้สอนจะแก้ปัญหานี้อย่างไร แต่ผู้สอนเองก็มีเทคนิคที่ทำให้เด็กกลับมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่ยากและเด็กสามารถตอบโจทย์ได้ด้วย เห็นแล้วผมยิ่งอยากให้ลูกเข้าเรียน ซึ่งทางโรงเรียนก็พร้อมทุกอย่าง ปัญหาอย่างเดียวคือ เส้นทางความรู้นี้ต้องแลกด้วยเงินเทอมละครึ่งแสน ก็ขึ้นอยู่กับผู้ปกครองแล้วว่าจะขีดทางให้ลูกๆ ยังไง
กลับมาที่ห้องน้องเปรมเอง เด็กๆ ยังแย่งกันตอบ สังเกตุลูกเราเหมือนจะตอบช้ากว่า เหมือนจะไม่ทันคนอื่น เหมือนจะไม่รู้ ก็ไม่แน่ใจว่าลูกเราจะเข้าใจในเรื่องที่สอนหรือเปล่า สำหรับผม ไม่เก่งอักกฤษเลยก็ยังรู้บ้างไม่รู้บ้าง แต่สังเกตุลูกแล้วมองไม่ออกว่าเค้ารู้หรือไม่รู้ในเรื่องที่เรียน เหมือนตามเพื่อน เหมือนเข้าใจแต่ช้า ฯลฯ
เชื่อแน่ว่าผู้ปกครองหลายคนก็เป็นแบบผม ลูกเราไม่เก่งเลยอ่ะ อิจฉาพ่อแม่ที่มานั่งมองลูกตัวเองเด่นอยู่ในห้อง แต่พอมองาพรวมๆ พิจารณาแล้ว ก็คิดได้ว่า
ลูกเราทำได้สิ ขนาดเราสอนเองเค้ายังเข้าใจเลย นี่ผู้เชี่ยวชาญสอนเค้าก็ต้องเข้าใจแน่นอน ต้องมั่นใจในตัวลูกสิ แม้จะเห็นว่าไม่เก่งในห้องเรียน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโตไปเค้าจะไม่ดี คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่างและทุกเวลา ดูอย่างตัวเองสิ ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้เก่งอะไรนี่ แต่ก็สามารถมีครอบครัวที่ดี มีหน้าที่การงานที่ดี
ผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นคนมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน คนดังหลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต วัยเด็กเค้าก็เรียนไม่เก่ง
คิดได้แบบนี้ก็สบายใจ ขอแค่ลูกเป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณ พ่อก็ภูมิใจแล้ว อนาคตยังอีกไกล วัดกันตอนนี้ไม่ได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้องในบล็อกพี่เปรม
โรคในเด็กเล็ก
โรคคาวาซากิ ในเด็กเล็ก
ตัวอย่างเหตุการณ์ เด็กชายบอยอายุ 2 ปี มีไข้สูงมา 5 วัน มีผื่นแดงตามลำตัว ตาแดง มีผื่นแดงตามลำตัว คุณแม่พาไปพบแพทย์ตั้งแต่เป็นไข้วันแรก แพทย์บอกว่าคอแดงเล็กน้อยได้ยาลดไข้และยาแก้อักเสบมากิน ผ่านมา 5 วันลูกยังมีไข้สูง
สถานศึกษา
น้องเปรมนั่งรถโรงเรียนได้แล้ว
ผ่านไปได้ 1 อาทิตย์แล้วหลังจากใช้บริการรถรับส่งนักเรียน ของโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ใช้บริการคุณเจต จริงๆ แล้วเปิดเทอมมาได้ 3 อาทิตย์แล้วแต่น้องเปรมดันป่วยหยุดไป 1 อาทิตย์เต็มๆ ส่วนอาทิตย์แรก คุณพ่อเค้าก็คอยรับส่งเอง มาอาทิตย์หลัง
สถานศึกษา
บ้านวังทองสัมพันธ์ 2555
ดีใจปีนี้ลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่โรงเรียนบ้านวังทอง และกำลังจะขึ้นชั้นอนุบาล 2 และทุกปีทางโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ก็จัดงาน บ้านวังทองสัมพันธ์ ซึ่งปีนี้ก็ปี 2555 ในงานมีกิจกรรมการแสดงของแต่ละชั้นเรียนมากมายหลายกิจกรรมมาก และพิธีจบการศึกษาของน้องๆ
เด็กกับอารมณ์
ลูกไม่ยอมกินข้าว เอาแต่เล่น และไม่ชอบทานผัก
เอาอีกแล้ว ปัญหาเจ้าตัวเล็กนับวันยิ่งทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่เดินได้พูดได้ แถมวิ่งเล่นได้นี่ เวลาจะเรียกให้ทานข้าวล่ะก็เป็นต้องอิดออดทุกที เชื่อไหมว่า เด็กน้อยบางคนใช้เวลากินข้าวเพียงมื้อเดียวตั้ง 1-2 ชั่วโมง เป็นเหตุให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายกลุ้มใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
พัฒนาการเด็ก
เมื่อเจ้าตัวเล็กกลายเป็น เด็กดื้อ
โอ้ย ทำไมไม่เชื่อฟังล่ะลูก โอย เซ็งกะเค้าจริงๆ เล้ยเจ้าคนนี้ ตายแล้วๆ ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ มานี่เลย โอ้ยๆ เล่นไม่ได้ อย่าสิ เดี๋ยวโดนตีเลยนะ เฮ่อ เด็กดื้อ คนนี้ทำยังไงกับเค้าดีเนี่ย
สถานศึกษา
update ใกล้เข้าเรียน summer แล้ว
น้องเปรมใกล้เข้าเรียน summer แล้วปีนี้ เข้าเรียนวันแรกจะเป็นยังไงบ้างนะ คงต้องเอาไปส่งแล้วก็ต้องทำใจปล่อย แต่ก็ต้องบอกเค้าด้วยน่ะนะ ว่าอยู่ที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ กับคุณครูใจดีที่ อนุบาลบ้านวังทอง โดยไม่มีคุณพ่อคุณแม่คอยดูนะ