ในที่สุดก็ได้เป็น มือ เท้า ปาก

หลังจากก่อนหน้านี้ น้องเปรมได้หยุดเรียน แต่ไม่ได้ป่วย เป็นกรณีพิเศษ และเด็กๆ ทุกๆ คนในโรงเรียนอนุบาลบ้านวังทอง ก็ได้หยุดเรียนแบบต้องนัดกันหยุดตามประกาศของคุณครูไปแล้ว เพราะที่โรงเรียนเกิดมีเด็กเป็นโรค มือ เท้า ปาก เปื่อยกัน จึงต้องปิดทำความสะอาดกันยกใหญ่ในวันนั้น ผ่านมากว่าเดือน โรคนี้ก็คงยังไม่หายขาดไปจากเมืองไทย โดยเฉพาะในเด็กเล็กๆ และวันนี้ น้องเปรมก็ได้เป็นแล้ว ถือว่า โชคดี หรือโชคร้ายก็ไม่รู้ได้ แต่คุณแม่ว่า ไม่ดี แต่ไม่ร้ายจนเกินไปเพราะไม่ได้เป็นในส่วนที่ร้ายแรงมากนัก

น้องเปรมเป็นโรคนี้เมื่อตอนเดือน กรกฎาคม 2555 ก็ต้องหยุดเรียนอยู่เป็นอาทิตย์ทีเดียว ติดจากเด็กวัยเดียวกันที่เล่นด้วยกัน เพราะพี่ๆ เค้าก็เป็นกันมาก่อนแต่อาจจะมีเชื้ออยู่ แม้หายดีแล้วก็ตาม วันนั้นลูกเลยเป็น เพราะสังเกตุเห็นว่า ที่มือมีเม็ตตุ่มๆ แดงๆ ขึ้น ตอนแรกไม่ได้เอะใจ แต่พอลองให้อ้าปากเท่านั้นแหละ คุณแม่ถึงบางอ้อว่า ลูกเป็นแน่นอน ก็เลยต้องเตรียมตัวทำอย่างที่รู้ๆ มาตามประสาคนรักลูก

เชื้อโรคนี้จะอยู่ในน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ น้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วย เชื้อโรคเข้าทางปากโดยตรงซึ่งอาจติดมากับมือ ของเล่น การไอ จาม หรือใช้ภาชนะในการรับประทานหรือดื่มร่วมกัน โรคนี้จะติดต่อกันได้ง่าย ในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย และจะพบเชื้อในอุจจาระผู้ป่วยได้นานประมาณ 12 สัปดาห์ หลังจากเริ่มป่วยเลยทีเดียว

อาการน้องก็ไม่ได้หนักมาก มีไข้บ้าง รับประทานอาหารได้ เล่นซนได้เหมือนเดิม อาการต่างๆ จะหายไปเองประมาณประมาณ 3 วันแต่คุณแม่เองก็อยากจะให้ลูกหยุดอีก อาทิตย์นั้นเลยไม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลบ้านวังทองทั้งอาทิตย์เลย กลัวลูกจะไปแพร่เชื้อให้เค้านั่นแหละ คุณพ่อก็แอบเหน็บนะว่า ลูกเราเราก็หวง แต่ทำไมทีลูกคนอื่นไม่เห็นรักให้เหมือนครอบครัวเราบ้าง บางทีเด็กป่วยเห็นๆ อยู่ ยังจะพาไปโรงเรียน หรือไปเที่ยวเล่นอีก ดูได้จากรอบๆ บ้านตัวเองนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนไกล

แต่ช่วงหลังๆ มานี่ก็ต้องสังเกตุกันก่อน หากไปเที่ยวเล่นที่ไหน ต้องขยันบอกให้ล้างมือบ่อยๆ ทุกวันนี้น้องเปรมเอง เวลากลับบ้านก็จะต้องล้างมือทุกครั้งก่อนขึ้นบ้านกันเลยทีเดียว กันไว้ดีกว่าแก้ดีกว่าเนาะ จะได้ห่างไกลจาก โรคมือเท้าปาก